เมนูนำทาง
อาชิกางะ โยชิโมจิ ชีวประวัติโชกุนโยะชิโมะชิเกิดเมื่อปีค.ศ. 1386 เป็นบุตรชายคนโตของโชกุนอะชิกะงะ โยะชิมิสึ (ญี่ปุ่น: 足利 義満 โรมาจิ: Ashikaga Yoshimitsu) ซึ่งเกิดกับภรรยาน้อยคือนางฟุจิวะระ โนะ โยะชิโกะ (ญี่ปุ่น: 藤原 慶子 โรมาจิ: Fujiwara no Yoshiko) มีน้องชายร่วมมารดาคือ อะชิกะงะ โยะชิโนะริ (ญี่ปุ่น: 足利 義教 โรมาจิ: Ashikaga Yoshinori) เนื่องจากโยะชิโมะชิเป็นบุตรชายคนโตของโชกุนโยะชิมิสึจึงได้รับการวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งโชกุน ในค.ศ. 1394 โชกุนโยะชิมิสึผู้เป็นบิดาได้สละตำแหน่งโชกุนให้แก่โยะชิโมะชิ โยะชิโมะชิจึงขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนเมื่ออายุเพียงแปดปี ในขณะที่โยะชิมิสึดำรงตำแหน่งเป็นอดีตโชกุนหรือโอโงะโชะ (ญี่ปุ่น: 大御所 โรมาจิ: Ōgosho) แม้ว่าจะขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนแต่เนื่องจากโยะชิโมะชิยังเยาว์ อำนาจการปกครองจึงยังคงอยู่ที่โอโงะโชะโยะชิมิสึ จนกระทั่งโอโงะโชะโยะชิมิสึถึงแก่อสัญกรรมเมื่อค.ศ. 1408 โชกุนโยะชิโมะชิจึงขึ้นมามีอำนาจอย่างเต็มที่ โชกุนโยะชิโมะชิมีความสัมพันธ์ที่ไม่สู้ดีนักกับบิดาของตนคือโอโงะโชะโยะชิมิสึ โอโงะโชะโยะชิมิสึโปรดปรานอะชิกะงะ โยะชิซึงุ (ญี่ปุ่น: 足利 義嗣 โรมาจิ: Ashikaga Yoshitsugu) น้องชายต่างมารดาของโชกุนโยะชิโมะชิเป็นอย่างมาก
ในค.ศ. 1409 จีนราชวงศ์หมิงส่งคณะฑูตมายังรัฐบาลโชกุนที่เมืองเกียวโตแต่โชกุนโยะชิโมะชิกลับปฏิเสธไม่รับฑูต ฝ่ายจีนยังคงพยายามที่จะส่งคณะฑูตมาอีกหลายครั้งแต่ไม่ประสบผล โชกุนโยะชิโมะชิดำเนินนโยบายที่ตรงกันข้ามโชกุนโยะชิมิสึผู้เป็นบิดาในการตัดสัมพันธ์กับราชวงศ์หมิง แม้ว่าโชกุนโยะชิโมะชิยังคงธำรงความสัมพันธ์กับราชวงศ์โชซ็อนของเกาหลีเอาไว้
ในค.ศ. 1398 พระเจ้าแทโจแห่งโชซ็อนทรงส่งราชทูตพัคทงชี (Pak Tong-chi) เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่น เพื่อประสานความร่วมมือในการปราบปรามโจรสลัดญี่ปุ่น หรือ วะโก (ญี่ปุ่น: 倭寇 โรมาจิ: Wakō) ซึ่งปล้นสะดมเมืองท่าต่างๆของจีนและเกาหลีสร้างความเสียหาย ซึ่งรัฐบาลโชกุนอะชิกะงะได้ตอบรับคำเสนอแต่การปราบปรามโจรสลัดญี่ปุ่นเป็นไปอย่างไม่คืบหน้า จนกระทั่งในค.ศ. 1419 พระเจ้าแทจงทรงตัดสินพระทัยส่งทัพเรือเกาหลีนำโดยแม่ทัพ ลีจงมู (Yi Jong-mu) เข้ารุกรานเกาะสึชิมะเพื่อปราบปรามโจรสลัดญี่ปุ่น เรียกว่า การรุกรานปีโอเอ (ญี่ปุ่น: 応永の外寇 โรมาจิ: Ōei no gaikō) แม่ทัพลีจงมูนำทัพเรือเกาหลีเข้ารุกรานและปล้มสะดมเกาะสึชิมะ จากนั้นรัฐบาลโชกุนฯและราชสำนักโชซ็อนจึงเจรจาสงบศึก
ในภูมิภาคคันโต มีผู้สำเร็จราชการแทนโชกุนเรียกว่า คันโตคุโบ (ญี่ปุ่น: 関東公方 โรมาจิ: Kantō kubō) ซึ่งพำนักอยู่ที่เมืองคะมะกุระและมีอำนาจเหนือซะมุไรในภูมิภาคคันโตและภาคตะวันออกทั้งมวล ด้วยอำนาจอันมหาศาลของคันโตคุโบ ทำให้คันโตคุโบกลายเป็นคู่แข่งทางการเมืองของรัฐบาลโชกุนที่เมืองเกียวโต ในค.ศ. 1416 คันโตคุโบอะชิกะงะ โมะชิอุจิ (ญี่ปุ่น: 足利持氏 โรมาจิ: Ashikaga Mochiuji) เกิดความขัดแย้งกับอุเอะซุงิ เซ็งชู (ญี่ปุ่น: 上杉 禅秀 โรมาจิ: Uesugi Zenshū) ซึ่งเป็นข้ารับใช้ของโมะชิอุจิเอง อุเอะซุงิ เซ็งชู จึงก่อการกบฎยกทัพเข้ายึดเมืองคะมะกุระ ทำให้คันโตคุโบโมะชิอุจิต้องหลบหนีออกจากเมืองคะมะกุระ ในค.ศ. 1417 โชกุนโยะชิโมะชิส่งทัพของรัฐบาลโชกุนฯเข้ายึดเมืองคะมะกุระคืนจากอุเอะซุงิเซ็งชูได้สำเร็จ และช่วยเหลือให้คันโตคุโบโมะชิอุจิกลับเข้าเมืองตามเดิม และเนื่องจากอุเอะซุงิ เซ็งชู นั้นเป็นพ่อตาของอะชิกะงะ โยะชิซึงุ น้องชายต่างมารดาและคู่แข่งทางการเมืองของโชกุนโยะชิโมะชิ โชกุนโยะชิโมะชิจึงตั้งข้อหาน้องชายของตนว่าเป็นกบฎและส่งคนไปสังหารโยะชิซึงุในค.ศ. 1418
ค.ศ. 1423 โชกุนโยะชิโมะชิ สละตำแหน่งให้แก่บุตรชายของตนคือ อะชิกะงะ โยะชิกะซุ (ญี่ปุ่น: 足利 義量 โรมาจิ: Ashikaga Yoshikazu) ขึ้นเป็นโชกุนคนต่อมา ส่วนอดีตโชกุนโยะชิโมะชิดำรงตำแหน่งเป็นโอโงะโชะเฉกเช่นเดียวกับบิดา แต่ทว่าโชกุนโยะชิกะซุดำรงตำแหน่งโชกุนได้เพียงสองปีก็ถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1425 โอโงะโชะโยะชิโมะชิจึงต้องกลับมาทำหน้าที่ของโชกุนอีกครั้ง หลังจากนั้นอีกสามปี โอโงะโชะโยะชิโมะชิก็ถึงแก่อสัญกรรมในค.ศ. 1428 อะชิกะงะ โยะชิโนะริ ผู้เป็นน้องชาย จึงขึ้นดำรงตำแหน่งโชกุนต่อมา
เมนูนำทาง
อาชิกางะ โยชิโมจิ ชีวประวัติใกล้เคียง
อาชิกางะ อาชิกางะ ทากาอูจิ อาชิกางะ โยชิมิตสึ อาชิกางะ โยชิมาซะ อาชิกางะ โยชิซูมิ อาชิกางะ โยชิตาเนะ อาชิกางะ โยชิฮารุ อาชิกางะ โยชิโนริ อาชิกางะ โยชิโมจิ อาชิกางะ โยชิคัตสึแหล่งที่มา
WikiPedia: อาชิกางะ โยชิโมจิ